Petri Dish (จานเพาะเชื้อ)
Petri Dish
อุปกรณ์พื้นฐานในห้องแล็บ
Petri dish หรือที่เรียกกันว่า "จานเพาะเชื้อ" คืออุปกรณ์สำคัญในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะในด้านจุลชีววิทยาและชีววิทยาระดับเซลล์ ใช้สำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์ เช่น แบคทีเรีย เชื้อรา หรือเซลล์จากสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้
ลักษณะและวัสดุของ Petri Dish (จานเพาะเชื้อ)
Petri dish มีลักษณะเป็นจานกลมแบน มีฝาปิด และทำจากวัสดุหลัก 2 ประเภท ได้แก่
- Petri dish แก้ว (Glass Petri Dish) – ทนความร้อน สามารถฆ่าเชื้อด้วยอุณหภูมิสูงในเตาอบหรือเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อ (autoclave) และนำกลับมาใช้ซ้ำ เหมาะกับงานวิจัยระยะยาว
- Petri dish พลาสติก (Plastic Disposable Petri Dish) – ราคาย่อมเยา ใช้ครั้งเดียว เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดเชื้อสูง เช่น ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์
ขนาดมาตรฐานคือเส้นผ่านศูนย์กลาง 90 mm. แต่สามารถเลือกขนาดอื่นได้ตามความเหมาะสมของงานทดลอง
การใช้งานของPetri Dish (จานเพาะเชื้อ) ในงานวิทยาศาสตร์
Petri dish นิยมใช้ในงานหลากหลายด้าน เช่น
- เพาะเชื้อจุลินทรีย์ เช่น แบคทีเรียและราโดยใส่อาหารเลี้ยงเชื้อ (agar) ลงในจาน แล้วหยดตัวอย่างจุลินทรีย์เพื่อติดตามการเจริญเติบโต
- การทดสอบยาต้านจุลชีพ (antibiotic sensitivity test) ใช้ Petri dish เพื่อทดสอบความไวของเชื้อโรคต่อยาปฏิชีวนะ
- งานชีววิทยาระดับเซลล์ ใช้ในการเพาะเลี้ยงเซลล์สัตว์หรือพืชในห้องแล็บ
- การศึกษาเชื้อในสิ่งแวดล้อม เช่น ตรวจสอบคุณภาพน้ำ อากาศ หรือพื้นผิวสัมผัสโดยใช้จานเพาะเชื้อดักจับจุลินทรีย์
ข้อควรระวังในการใช้งาน Petri Dish (จานเพาะเชื้อ)
- ควรใช้ในสภาพแวดล้อมปลอดเชื้อ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
- จานเพาะเชื้อที่ใช้แล้วควรได้รับการกำจัดอย่างเหมาะสมตามหลักความปลอดภัยในห้องแล็บ
- ห้ามเปิดฝาจานขณะยังมีจุลินทรีย์ที่เพาะอยู่โดยไม่สวมถุงมือหรือเครื่องป้องกัน
การเก็บรักษา Petri Dish (จานเพาะเชื้อ)
การเก็บรักษาขึ้นอยู่กับวัสดุของ Petri dish
- สำหรับจานเพาะเชื้อแบบแก้ว หลังใช้งานควรล้างให้สะอาด และอบฆ่าเชื้อในเตาอบ (Dry heat sterilizer) หรือเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อ (Autoclave) ที่อุณหภูมิ 121 °C เป็นเวลาอย่างน้อย 15–20 นาที แล้วเก็บในตู้ปลอดเชื้อหรือกล่องที่มีฝาปิดมิดชิด
- สำหรับจานเพาะเชื้อแบบพลาสติก ควรเก็บในถุงสุญญากาศหรือบรรจุภัณฑ์เดิม ป้องกันการสัมผัสอากาศ ความชื้น และแสงแดดโดยตรง ควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง (ประมาณ 20–25°C) และไม่เก็บไว้นานเกินกว่าที่ผู้ผลิตแนะนำ
ขอบคุณแหล่งที่มา:
- กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์.คู่มือการใช้จานเพาะเชื้อในห้องปฏิบัติการ. กระทรวงสาธารณสุข, 2563
- สำนักมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม.มาตรฐานผลิตภัณฑ์จานเพาะเชื้อสำหรับใช้ในห้องแล็บ, มอก. 1234-2552