ตัวทำละลาย (Solvent)
ตัวทำละลาย (Solvent) ...
ทำไมถึงสำคัญในงานแล็บและอุตสาหกรรม ?
ตัวทำละลาย (Solvent) คือ สารที่สามารถละลายสารอื่นได้ ทำให้เกิดสารละลาย (Solution) โดยไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีที่ไม่ต้องการในระหว่างการใช้งาน ตัวทำละลายมีความสำคัญอย่างมากทั้งในห้องปฏิบัติการ งานวิจัย การผลิตอุตสาหกรรม ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำหอม น้ำยาทำความสะอาด ยา หรือสีทาบ้าน
ถึงแม้ตัวทำละลายจะมีหน้าที่คล้ายกัน คือ “ช่วยละลาย” แต่ในความจริงแล้ว Solvent แต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน เช่น ความเป็นกรด-ด่าง ความสามารถในการระเหย ความเข้ากันได้กับสารอื่น รวมถึงความปลอดภัย จึงจำเป็นต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม
ตัวทำละลาย (Solvent) ทำงานอย่างไร?
ตัวทำละลายสามารถแทรกเข้าไปในโครงสร้างของสารที่ต้องการละลาย ทำให้เกิดการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ หลักการสำคัญคือ
"Like dissolves like – ขั้วเหมือนกันละลายกันได้ดี"
- สารที่มีขั้ว (Polar) เช่น น้ำ, Ethanol จะละลายสารประเภทน้ำตาล เกลือ หรือกรดด่างได้ดี
- สารที่ไม่มีขั้ว (Non-polar) เช่น Hexane, Toluene จะละลายไขมัน น้ำมัน หรือยางได้ดี
- ตัวทำละลายบางชนิดมีทั้งคุณสมบัติมีขั้วและไม่มีขั้ว เช่น Acetone ทำให้ใช้งานได้หลากหลาย
บทบาทของตัวทำละลายในเชิงเคมี
ตัวทำละลายมีหน้าที่หลัก 3 ประการ ได้แก่
1) เพิ่มการกระจายตัวของโมเลกุล (Molecular dispersion)
ตัวทำละลายช่วยให้โมเลกุลของสารละลายกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้เกิดสารละลายที่มีความเสถียรทั้งทางกายภาพและทางเคมี
2) ควบคุมสภาวะของปฏิกิริยา (Reaction medium)
ตัวทำละลายส่งผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา เช่น ความมีขั้ว (Polarity) ความสามารถในการให้หรือรับโปรตอน ค่าคงที่ไดอิเล็กทริก (Dielectric constant) ความหนืด (Viscosity) ความสามารถในการเกิดพันธะไฮโดรเจน ตัวทำละลายจึงเป็นตัวกำหนดกลไกของปฏิกิริยาและปฏิกิริยาเร่งด้วยตัวเร่งปฏิกิริยาต่าง ๆ
3) ช่วยแยกและสกัดสาร (Extraction & Separation)
ในงานแยกสาร ตัวทำละลายทำงานผ่านหลัก Partition coefficient (ค่าการกระจายตัว) ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าสารจะกระจายในชั้นใดระหว่างตัวทำละลายต่างขั้ว
ประเภทของตัวทำละลายที่พบได้ทั่วไป
ตัวทำละลายอินทรีย์ (Organic solvent)
ได้จากสารประกอบคาร์บอน เช่น แอลกอฮอล์ คีโตน เอสเทอร์ และไฮโดรคาร์บอน ใช้กันมากที่สุดในงานแล็บและอุตสาหกรรม
ตัวอย่าง: Acetone, Methanol, Ethanol, Isopropyl Alcohol (IPA), Toluene, Hexane
เหมาะสำหรับ: ทำความสะอาด สกัดสาร ผลิตสี กาว หมึกพิมพ์ และใช้ในกระบวนการผลิตทางเคมีต่าง ๆ
ตัวทำละลายอนินทรีย์ (Inorganic solvent)
ส่วนมากคือสารละลายที่พื้นฐานเป็นน้ำ ตัวอย่าง: น้ำ (Water), กรดเจือจาง, ด่างเจือจาง
เหมาะสำหรับ: ใช้ในห้องแล็บทั่วไป กระบวนการชีวภาพ อาหาร และการแพทย์
ตัวอย่างตัวทำละลายยอดนิยมในงานแล็บและอุตสาหกรรม
Acetone: ระเหยเร็วและไม่ทิ้งคราบเหมาะกับการล้างคราบไขมัน สี หรือเรซิน นิยมใช้ในอุตสาหกรรมสีและพลาสติก
Methanol: ราคาถูกใช้ในการผลิตสารเคมีหรือเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงและต้องใช้อย่างระมัดระวังเพราะเป็นพิษสูง
Ethanol (Ethyl Alcohol): ปลอดภัยกว่าตัวทำละลายหลายชนิด นิยมใช้ในเครื่องสำอาง อาหาร ยา และผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อ มีทั้งแบบ Food grade และ Industrial grade
IPA (Isopropyl Alcohol): ระเหยเร็วและปลอดภัยต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นิยมใช้ฆ่าเชื้อหรือทำความสะอาดแผงวงจร เลนส์ และเครื่องมือแพทย์
ทำไมต้องเลือกตัวทำละลายให้เหมาะสม?
การเลือก Solvent ผิดอาจทำให้เกิดปัญหา เช่น
- ฆ่าเชื้อได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
- ทำให้พลาสติกหรือชิ้นส่วนเครื่องมือเสียหาย
- เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การสูดดม หรือการติดไฟ
- ทำให้ผลการทดลองเพี้ยนหรือผลิตภัณฑ์ไม่ได้คุณภาพ
ดังนั้น ก่อนเลือกใช้ควรตรวจสอบ
- จุดเดือดและความเร็วในการระเหย
- ความเป็นพิษ
- คุณสมบัติการละลาย
- ความไวไฟ
- รายละเอียดในเอกสาร SDS ของสารเคมีนั้น ๆ
ตัวทำละลายคือหัวใจของหลายกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม การเข้าใจลักษณะและประเภทของ Solvent จะช่วยเลือกใช้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และลดต้นทุนได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานทำความสะอาด งานแล็บ การผลิตสินค้า หรือสูตรเครื่องสำอาง
ขอบคุณแหล่งที่มา :
- กรมควบคุมมลพิษ (PCD) – ข้อมูลสารเคมีอันตราย
- กรมโรงงานอุตสาหกรรม (DIW) – ฐานข้อมูลวัตถุอันตราย
- สมาคมเคมีแห่งประเทศไทย
- มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (TISI/สมอ.)
