การจัดเก็บสารเคมีอย่างปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ

   

 จัดเก็บสารเคมีอย่างไรให้ปลอดภัย ?

 

ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ทุกแห่งล้วนเกี่ยวข้องกับสารเคมีหลากหลายชนิด ทั้งในงานวิจัย การทดลอง และการควบคุมคุณภาพ การจัดการสารเคมีอย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อ ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและสารพิษ ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม สร้างความปลอดภัยแก่บุคลากรและสิ่งแวดล้อม

 

วิธีจัดเก็บสารเคมี

  • แยกเก็บตามประเภท: สารเคมีควรจัดเก็บโดยแยกตามประเภท เช่น สารติดไฟ สารออกซิไดซ์ กรด ด่าง และสารพิษ เพื่อป้องกันปฏิกิริยาเคมีที่ไม่พึงประสงค์
  • ภาชนะบรรจุ: ใช้ภาชนะที่เหมาะสมและมีฉลากระบุชื่อสาร ความเข้มข้น วันที่รับเข้า และวันหมดอายุอย่างชัดเจน
  • สถานที่จัดเก็บ: ควรเป็นพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดี ห่างจากแหล่งความร้อน และมีการควบคุมการเข้าถึง

 

การแยกประเภทสารเคมีก่อนจัดเก็บ

เพื่อป้องกันปฏิกิริยาอันตราย ต้องแยกสารเคมีออกจากกันตามคุณสมบัติ ดังนี้:

กลุ่มสารเคมี

ตัวอย่าง

ไม่ควรเก็บร่วมกับ

หมายเหตุ

ติดไฟ (Flammable)

เอทานอล, เมทานอล

สารออกซิไดซ์

เก็บในตู้กันไฟ (Flammable Cabinet)

ออกซิไดซ์ (Oxidizer)

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

สารติดไฟ, สารอินทรีย์

เสี่ยงต่อการระเบิดเมื่อผสม

กรด (Acid)

HCl, HNO₃, H₂SO₄

ด่าง, สารอินทรีย์

ห้ามเก็บกรดไนตริกร่วมกับกรดอื่น

ด่าง (Base)

NaOH, KOH

กรด

อาจเกิดความร้อนหรือฟอง

พิษ/ก่อมะเร็ง

เบนซีน, ฟอร์มัลดีไฮด์

-

ควรเก็บในตู้ดูดไอหรือตู้ล็อกเฉพาะ

โลหะหนัก

ตะกั่ว, ปรอท

-

จัดเก็บในภาชนะปิดสนิท

 

ข้อกำหนดทั่วไปในการจัดเก็บสารเคมี

  • มีฉลากชัดเจน (Labeling):
    • ระบุชื่อสาร (ทั้งไทย-อังกฤษ)
    • ความเข้มข้น
    • วันที่ผลิต/วันหมดอายุ
    • สัญลักษณ์อันตราย (Hazard Symbols)
  • ไม่เก็บสารเคมีบนพื้นห้อง: ควรเก็บบนชั้นหรือในตู้เท่านั้น
  • ห้ามใช้ภาชนะซ้ำ: โดยเฉพาะกับสารไวไฟ/กรดเข้มข้น
  • ระบบระบายอากาศ:
    • ตู้เก็บสารเคมีควรมีช่องระบายอากาศหรือระบบดูดไอ
    • ห้องเก็บสารควรติดตั้งพัดลมระบายอากาศ

 

การใช้ตู้เก็บสารเคมีเฉพาะทาง

ประเภทตู้

ใช้สำหรับ

หมายเหตุ

ตู้เก็บสารไวไฟ (Flammable Cabinet)

เมทานอล, อะซิโตน

ทนไฟได้อย่างน้อย 30-90 นาที

ตู้ดูดไอ (Fume Hood)

สารระเหย, สารพิษ

ควรเปิดใช้งาน Hood ระหว่างการใช้งาน

ตู้เก็บกรด-ด่าง (Corrosive Cabinet)

HCl, NaOH

วัสดุกันกร่อน เช่น PP หรือ PVC

ตู้เก็บสารพิษ/ก่อมะเร็ง (Toxin Cabinet)

ฟอร์มัลดีไฮด์, เบนซีน

ควรมีระบบล็อก/แยกจากห้องอื่น

 

ระบบตรวจสอบและจัดการ

  • จัดทำทะเบียนสารเคมี (Chemical Inventory List):
    • ตรวจนับสต๊อกอย่างน้อยทุก 6 เดือน
    • บันทึกผู้เบิก-ผู้ใช้-วันเวลาการใช้
  • จัดทำ SDS (Safety Data Sheet):
    • ต้องมี SDS ภาษาไทย (หรืออังกฤษพร้อมแปล)
    • จัดเก็บไว้ใกล้แหล่งใช้งาน
  • ระบบ First In First Out (FIFO):
    • ใช้สารที่เก่าก่อน เพื่อลดของเสียจากหมดอายุ

 


 

ขอบคุณแหล่งที่มา:
- โครงการ ESPReL – แนวทางปฏิบัติความปลอดภัยในแล็บ
- กรมวิทยาศาสตร์บริการ – คู่มือความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ
- คู่มือแนวทางการจัดการสารเคมีในห้องปฏิบัติการ – กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์